-
ยังไม่มีสินค้าในตระกร้า!
Fret Wire ลวดเส้นเล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่
ลวด Fret เป็นอีกหนึ่งชิ้นส่วนที่สำคัญบนกีต้าร์ ซึ่งมือของนักกีต้าร์นั้นเกือบจะต้องสัมผัสกับ Fret ตลอดเวลาที่ทำการเล่นกีต้าร์ ดังนั้นการทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของ Fret และการเลือก Fret ให้เข้ากับความถนัดและแนวในการเล่นจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง ความแข็งของ Fret ปัจจัยแรกที่จะนำมาพูดถึงคือเรื่องของ
ความแข็งของ Fret
การกำหนดความแข็งของ Fretโดยทั่วไปจะใช้การกำหนดตามมาตรฐานสากล ของการกำหนดความแข็งในเนื้อวัสดุ โดยใช้หลักการของ Vickers Hardness Test ซึ่งจะทำการวัดความแข็งโดยใช้การกดของหัวกด เพชรรูปปิระมิดลงในเนื้อวัสดุ จากนั้นวัดความยาวเส้นทแยงมุมของรอยกดบนเนื้อวัสดุ และนำมาคำนวณเป็นค่าความแข็งของ Vickers ตามภาพด้านล่าง
โดยทั่วไปการแสดงค่าความแข็งแบบ Vickers จะแสดงได้ตามตัวอย่างด้านล่าง
200HV5 หมายถึง ค่าความแข็ง 200 Vickers ที่แรงกด 5 Kgf โดยเลขค่าความแข็งยิ่งมาก หมายถึง Fret นั้นมีความแข็งมากขึ้น Fret ที่มีความแข็งมาก จะเกิดการสึกหรือได้ยากกว่า Fret ที่มีความแข็งน้อย ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานกว่า สำหรับนักกีต้าร์บางท่าน การเล่น Fret ที่มีความแข็งสูง อาจะให้ความรู้สึกเหมือน Fret ลื่นเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Fret ที่มีขนาดสูงกว่าปกติ อาจให้ความรู้สึกเหมือนสายปลิ้นออกจาก Fret อาจต้องทดลองเล่น หรืออาจจะต้องใช้การปรับตัวเล็กน้อยก่อนที่จะเริ่มใช้ Fret ชนิดนี้
Fret ที่มีความแข็งสูงนั้น ในการติดตั้ง Fret และการปรับระนาบๆ ต่างๆ จะทำได้ยากกว่า Fret ที่มีความแข็งปกติ ทำให้ต้นทุนการทำงานกับ Fret ที่มีความแข็งสูงจะแพงกว่า ประมาณ 2 – 3 เท่า
เทคนิคอีกอย่างหนึ่งในการทำให้ Fret มีความแข็งมากขึ้นคือการดัด Fret และยืดออก และดัดใหม่ สองถึงสามครั้ง โดยการกระทำแบบนี้สามารถช่วยให้ Fret มีความแข็งมากขึันได้ สามารถอธิบายได้ด้วยหลักการทางโลหะวิทยา กล่าวคือ เมื่อโลหะถูกเปลี่ยนแปลงรูปร่างโดยไม่ใช้ความร้อน เส้น Dislocation ในเนื้อวัสดุจะเกิดการชนกันและพันกันเอง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างในเนื้อวัสดุและมีความแข็งมากขึ้น
วัสดุที่นำมาผลิตเป็นลวด Fret
วัสดุที่นำมาผลิตเป็นลวด Fret นั้น จะเป็นโลหะซึ่งจะพบไม่กี่ประเภท แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากส่วนผสมในลวด Fret แต่ละยี่ห้อนั้น ไม่เหมือนกัน อาจทำให้มีคุณสมบัติต่างกันไปตามแต่ส่วนผสม
- Nickle Silver หรืออีกชื่อหนึ่งคือ German Silver เป็นวัสดุยอดนิยมที่สุดที่นำมาทำเป็น Fret แม้ว่าชื่อนั้นจะมีคำว่า Silver อยู่แต่ในความเป็นจริง มันไม่มี Silver ผสมอยู่เลย ส่วนประกอบหลักคือทองแดง ประมาณ 80% นิเกิล 16-18% และที่เหลือคือส่วนผสมอื่นๆ เป็น ความแข็งโดยทั่วไปอยู่ที่ระดับ 200HV5
- Copper Alloy เป็นวัสดุที่มีการนำมาใช้ทำเป็นลวด Fret ในยุคหลัง โดยจุดเด่นที่สุดของ ลวด Fret ชนิดนี้คือ ตัวลวดจะเป็นสีเหลืองทอง ช่วยเพิ่มความสวยงามเมื่อทำการติดตั้งบนกีต้าร์ โดยผู้นำของการใช้วัสดุตัวนี้คือ Jescar US โดยใช้ชื่อทางการค้าว่า EVO Gold ค่าความแข็งเฉลี่ย อยู่ที่ 250HV5
- Stainless Steel เป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในกีต้าร์ยุคใหม่ เป็นวัสดุที่มีความแข็งมากที่สุดในกลุ่ม มีคุณสมบัติพิเศษคือทนการสึกหรอทั้งในเรื่องของการกัดกร่อนจากเคมีที่เกิดจากเหงื่อหรือสภาพแวดล้อม และในเรื่องของการเสียดสีกับสายกีต้าร์ ค่าความแข็งเฉลี่ย อยู่ที่ 300HV5
นอกจากนี้ยังมีวัสดุอื่นๆอีก เช่น ทองเหลือง ทองแดงและอื่นๆ แต่ไม่ได้รับความนิยมมากนัก
ส่วนประกอบต่างๆ ของ Fret
Fret Crown เป็นส่วนยอด Fret ที่สัมผัสกับสาย และสัมผัสกับมือของเล่นอยู่ตลอดเวลา มีให้เลือกตามความกว้างและความสูงที่หลากหลาย ซึ่งผลต่อความกว้างและความสูงของ Fret Crown มีผลตามตารางด้านล่าง
คุณสมบัติ Fret ตาม รูปร่าง |
ความกว้าง Crown | ||
แคบ | กว้าง | ||
ความสูง Crown | สูง | ให้ความรู้สึกที่สายจิก ลงไปใน Fret ใช้แรงกดสายไม่มาก |
การดันสายเป็นไปอย่างง่ายดาย การกด Fret ทำได้ง่าย พื้นที่ระหว่างช่อง Fret น้อยลงในช่วงท้าย การใช้เทคนิคสไลด์สายอาจมีติดขัดบ้าง |
ต่ำ | เป็น Fret แบบ Vintage ให้ความรู้สึก เหมือนกับการกดสายลงบนเนื้อไม้โดยตรง อาจใช้แรงกดมากกว่าปกติ |
การดันสายทำได้ง่าย การกด Fret ทำดีในระดับหนึ่ง พื้นที่ระหว่างช่อง Fret น้อยลงในช่วงท้าย ให้ความรู้สึกสัมผัสกับเนื้อไม้ |
Fret Tang(ขา Fret ) เป็นส่วนที่ต้องถูกฝังอยู่ในเนื้อไม้ ซึ่งจะมีความกว้างโดยทั่วไปอยู่ระหว่าง 0.5-0.6 mm. ซึ่งการฝัง Fret จะต้องทำการตัดร่อง Fret ให้มีขนาดพอดีกับขา Fret เพื่อที่จะทำให้ขา Fret ยึดเกาะกับ Fingerboard ได้ดี
การบอกขนาดของ Fret
โดยทั่วไป การบอกขนาดของ Fret ที่ดีที่สุด คือการบอกขนาดด้วยขนาดจริง ของ Fret Crown นั่นคือการบอกความกว้าง และความสูง ซึ่งในบางครั้งรวมไปถึงรัศมีด้วย
แต่อย่างไรก็ตามมีการบอกขนาดของ Fret อีกประหนึ่งที่ได้รับความนิยม เนื่องจาก สามารถนึกภาพตามได้ง่ายและเข้าใจได้มากกว่าในทางปฏิบัติคือการบอกขนาดของ Fret เป็น Small Medium Jumbo หรือ Narrow Mediumm Wide
การบอกลักษณะนี้เป็นการบอกขนาดของ Fret แบบคร่าวๆเท่านั้น และไม่มีมาตรฐานชัดเจนว่า เช่น Fret ขนาด Small จะมีขนาดเท่าไหร่
หลักเกณฑ์ทั่วๆไปในการแบ่งลักษณะ Fret เป็นไปตามด้านล่าง
Wide or Jumbo ความกว้าง 2.5 - 2.8 mm.
Medium ความกว้าง 1.8 - 2.15 mm.
Small or Narrow ความกว้าง 1.8 - 2.15 mm.
มีการบอกขนาด Fret อีกประเภทหนึ่งที่ได้รับ ความนิยม คือ การบอกขนาดโดยการเทียบเบอร์กับ Fret ของบริษัท Dunlop โดยจะบอกเป็นรหัส 4 ตัวเช่น 6150 ,6100 เป็นต้น